จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

พระปิดตา

ความหมายเบื้องต้นแห่งการปิดตาก็คือ การปิด "ทวาร"หรือทางเข้าทางออกแห่งอาสวะกิเลสทั้งหลาย ซึ่งเราชื่อกันว่าร่างกายของมนุษย์(หรือสัตว์) มี "ทวาร" หมายถึง ประตูแห่งการเข้าออก ๙ ทาง ได้แก่ ตา ๒ / จมูก ๒ / หู ๒ / ปาก ๑ / รวมทั้ง ช่องทางขับถ่ายด้านหน้าและ ด้านหลังอีก ๒ รวมเป็น ทวารทั้ง ๙  การปิดกั้นทวารทั้ง ๙ เป็นปริศนาธรรมที่กั้นกิเลสจากภายนอกไม่ให้เข้ามาสู่ภายใน ลักษณะเด่นของพระปิดตานั้นนับเป็นพระเครื่องที่แสดงถึง "นัย" หรือ "ปริศนาธรรม"แห่งงานพุทธศิลปะอย่างโดดเด่น ยากจะหาพระเครื่องประเภทใดเทียบเทียมได้

   ชนิดของพระปิดตาแบ่งออกเป็น ๓ ชนิด               
                ๑. พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งยอง ความหมายเดิมคือพระโพธิสัตว์เจ้าในพระครรภ์ เรียกว่าพระมหาอุด หรือเป็นพระปิดทวารทั้งเก้าเต็มภาค ไม่มีคำเรียกอย่างอื่น ชนิดปิดตานั่งยอง มือสอดเช่า ทางใต้เรียกพระปิดตาในครรภ์

                ๒. พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งขัดสมาธิยกหัตถ์ปิดทวารทั้งเก้า ความหมายเดิมคือพระเจ้าเข้านิโรธ เราเรียกพระปิดตาตามลักษณะนี้อีกชื่อหนึ่งว่า “พระปิดตามหาอุด” มาจากหัวใจ  ๔ คำด้วยกัน คือ “อุดทัง อัดโท โทอุด ทังอัด” เรียกว่า “หัวใจมหาอุด” และด้วยพุทธคุณทางด้านกันอาวุธสูงมาก ประกอบกับพุทธคุณด้านอื่นก็มีแฝงอยู่ด้วย แล้วมีการเปลี่ยนแปลงในภาษากลายเป็น“พระปิดตามหาอุตม์” แปลตรงตัวว่าพระปิดตาที่อุดมไปด้วยความดีมีคุณวิเศษครบถ้วนทุกอย่างทุกทาง

ควรใช้ศัพท์เรียกว่า “ภควัม”ไม่มีคำว่าพระนำหน้าและไม่มีคำบดีหรือปติตามหลัง จะเรียกภควันต์ก็ไม่ได้ เพราะคำศัพท์หมายถึงพระอิศวรหรือนามแห่งพระพุทธเจ้า ภควัม ตามความหมายของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานหมายความถึงพระปิดทวารทั้งเก้าปิดตาคว่ำพระพักตร์ จนมีคำพังเพยว่า”หน้าคว่ำเป็นภควัมเจียวนะ”หมายถึงสาวแสนงอน มองไปหลายตลบ ก็ไม่พบพระปิดตาหน้าคว่ำคำราชบัณฑิตหมายถึง ผู้แปลบาลีท่านจะเป็นนักพระเครื่องด้วยหรือเปล่าก็ไม่ทราบ

                ๓. พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งขัดสมาธิยกหัตถ์ทั้งสองขึ้นปิดพระพักตร์ เว้นส่วนอื่น เป็นพระเมตตามหานิยมและลาภผล เรียกว่า “พระควัมปติ”พระปิดตาทั้ง๓ชนิดมีทั้งฝ่ายบู้ ฝ่ายบุ๋น ความหมายมิได้คล้ายคลึงกันเลย ยังมีบางท่านเข้าใจผิดคิดว่าเป็นประเภทเดียวกัน จึงขอคุยกันห้เห็นชัดสักครั้ง เพราะมิผู้นิยม"พระปิดตา"กันมาก

พระปิดตาในประเทศไทยที่พบเห็นมีอยู่ด้วยกันหลายแบบ หลายทรง และหลายเนื้อหา สะท้อนบ่งบอกถึงความเป็น “เอกลักษณ์” ของผู้สร้าง โดยนิยมสร้างด้วย
๑. เนื้อผง
๒. เนื้อโลหะ
๓. เนื้อไม้แกะ

เนื้อผงสร้างจากผงพุทธคุณ ว่าน รวมไปถึงดิน
เนื้อโลหะ ได้แก่ สำริด เงิน เหล็ก หรือโลหะผสมของธาตุกลุ่มโลหะ
อย่างหลังสุดจะพบเห็นกันไม่บ่อยนัก ตามตำรานิยมสร้างจากไม้โพธิ์นิพพานบูรพาทิศ (กิ่งชี้ทางทิศตะวันออกหักลงเองตามธรรมชาติ) หรือไม้รักซ้อน แกะเป็นองค์พระภควัมบดี คว้านก้นให้กลวง นำกระกาษสาลงยันต์องค์พระภควัมบดี และให้เอายอดรักซ้อน ยอดสวาท ยอดกาหลง อย่างละ ๓ ยอด บดให้ละเอียดผสมกันเป็นตัวยา แล้วหาไคลเสมา ไคลพระอุโบสถ และไคลเจดีย์ เคล้าคุลีการเข้ากับผงอิธเจ บรรจุทับ แล้วอุดด้วยชันนะโรงใต้ดิน................ ลงแช่ในน้ำมันเก้ากลิ่น แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วครับ
ส่วนการทำรูปเคารพเป็นรูปปิดทวารทั้ง 9 นั้น ก็คือมือคู่หนึ่งปิดหน้า คือปิดตา 2 ข้างปิดจมูก 2 ปิดปาก 1 และมีมืออีกคู่หนึ่งมาปิดที่หู 2 ข้าง ส่วนอีกมือคู่หนึ่งนั้นปิดที่ทวารทั้ง 2 รวมเป็นปิดทวารทั้งเก้านั้นแฝงไว้คติธรรมอันหมายถึง ตอนที่พระภควัมปติท่านกำลังเข้านิโรธสมบัติ ทวารทั้งเก้าก็จะปิดสนิท ไม่ยินดียินร้ายกับกิเลสทั้งหลาย หมายถึงดับสนิท อาสวะกิเลสต่างๆ ไม่อาจที่จะเข้ามาแผ้วพานได้เลย
พระปิดทวารทั้งเก้านั้นมีคติการสร้างมาตั้งแต่ครั้งไหน ยังไม่มีการสืบค้นไปถึงได้ มีพระปิดทวารทั้งเก้าเก่าๆ ที่ยังไม่มีใครทราบว่าเป็นของพระอาจารย์ท่านใดสร้าง แต่มีเนื้อหาความเก่าและได้รับตกทอดกันมานานแล้ว ก็มักจะเรียกกันว่าพระปิดทวารฯ เขมร ส่วนมากที่พบมักจะเป็นเนื้อโลหะ ประเภทสำริด หรือโลหะผสม ออกจะเป็นทองเหลืองบ้าง เนื้อกลับดำบ้าง

ภาควัตถุมงคล

วัตถุมงคลของหลวงปู่เลิศที่รวบรวมได้นะครับ

พระกริ่งนะปัดตลอด
เบี้ยแก้นะปัดตลอด
เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่เลิศ
พระขรรค์นะปัดตลอด
สมเด็จหอมหลวงปู่เลิศ

สมเด็จหอมหลวงปู่เลิศ อคฺคปุญฺโญ

จากบทความผงวิเศษหกตุ่มทำให้คณะจัดสร้างมั่นใจว่า สมเด็จหอม ของหลวงปู่เลิศ อคฺคปุญฺโญ รุ่นนี้สร้างจากผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์อย่างแท้จริง  มั่นใจได้มากกว่าทุกรุ่นทุกวัดที่สร้างๆกันมาด้วยซ้ำไป แม้กระทั่งพระปิดตาของวัดเครือวัลย์ที่สร้างต่อจากหลวงพ่อแก้วนั้นก็ได้สืบทอดมาเพียงแค่แท่งดินสอผงที่ยังไม่ได้ลบ โดยหลวงพ่อบ๊วยเจ้าอาวาสองค์ต่อจากหลวงพ่อแก้วเป็นผู้เก็บรักษาไว้ สืบต่อมาจนถึงยุคท่านเจ้าคุณวิเชียรก็เลยนำมาบดทำผงชนวนพระปิดตาแจก (เรื่องนี้พระอาจารย์สมบูรณ์ผู้ดูแลกุฏิหลวงพ่อแก้วที่วัดเครือวัลย์ก็ยังยืนยันว่าท่านทันได้เห็นแท่งดินสอผงนั้นด้วย)
นอกจากนี้ยังไม่เคยปรากฏว่ามีรุ่นใด ที่มีภาพและข้อมูลเชิงลึกอันเป็นข้อเท็จจริงและมีประจักษ์พยานยืนยันได้มากมายเท่าผงหลวงพ่อแก้วหกตุ่มที่เรากำลังกล่าวถึงอยู่(ส่วนใหญ่เป็นเพียงใครบางคนเขียนขึ้นมา)


ในพระสมเด็จหอมนั้น นอกจากจะมีผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์แล้ว ยังมีผงหลวงพ่อปลอด วัดในปากทะเล  หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวงแล้ว  ก็ยังมีผงที่หลวงพ่อบุญรวบท่านลบเอง ผงยาหอมหลวงปู่เลิศ ผงว่าน ๑๐๘ และผงพุทธคุณต่างๆ อีกมากมายกว่า ๑๐๘ พระเกจิอาจารย์ที่คณะศิษย์ของหลวงปู่เลิศรวบรวมไว้มาผสมลงไปแบบจัดหนัก จัดเต็มอีกด้วย

โดยก่อนที่จะนำผงหกตุ่มจากวัดในปากทะเลดังกล่าวลงผสมสร้างพระสมเด็จหอม คณะศิษย์ที่ช่วยดำเนินงานจัดสร้างตามคำสั่งของหลวงปู่เลิศได้เคยเผลอนำติดไปกับมวลสารอื่นๆ โดยคนบรรจุลงลังไม่ได้บอกเอาไว้  ครั้งนั้นมีการนำมวลสารไปหลายลัง แต่พอไปเสกหลวงพ่อทองเหมาะ วัดชีปะขาว เกจิสายหลวงพ่อเนียมวัดน้อยกลับแทบไม่ยอมเสกลังที่มีผงนี้  ส่วนอีกรูปหนึ่งที่เป็นลูกบุญธรรมของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อายุ ๘๕ ปี ๖๕ พรรษาถึงกับออกปากเลยว่าลังนี้อะไร?  ดีมาก ดีมากๆ กว่าทุกลัง ดีแล้ว ไม่ต้องเสกแล้ว เสกไม่เข้า พวกลูกศิษย์พอได้ฟังดังนั้นเลยไปค้นก้นลังดู ถึงรู้ว่ามีผงหกตุ่มนี้อยู่  ส่วนหลวงปู่เลิศเองท่านก็ว่าเป็นผงที่ดีที่สุดเท่าที่ท่านเคยเห็นมา ต้องเชิญครูเสก หลวงปู่เสกไม่ลงอีกแน่  ท่านจึงสั่งให้คณะศิษย์ของท่านนำไปเสกในวันไหว้ครู(เสาร์๕ พ.ศ.๒๕๕๔)หลวงพ่อทองสุข ณ วัดโตนดหลวง หลังจากนั้นท่านจะพยายามเสกเพิ่มอีก ๕ เสาร์แต่ก็เสกไม่ลงแล้ว จริงดังคำที่หลวงพ่อบุญรวบท่านบอกไว้

สมเด็จหอมนี้หลวงปู่เลิศและคณะศิษย์ของท่านสร้างขึ้นเป็นที่ระลึกในงานบูชาครูหลวงพ่อทองสุข อินฺทโชโต ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ.วัดโตนดหลวง หลังจากที่ท่านมรณภาพไปนานถึง ๕๔ ปีและได้มอบให้วัดโตนดหลวงออกให้บูชา เพื่อนำปัจจัยไปชำระค่าจัดสร้างรูปเหมือนหลวงพ่อทองสุขและหล่อรูปหลวงพ่อเทียนอดีตเจ้าอาวาสวัดโตนดหลวงต่อไป

พระรุ่นนี้จึงเป็นวัตถุมงคลแห่งความกตัญญูที่น่าบูชายิ่งเพราะเป็นวัตถุมงคลที่ดีนอกและดีใน สร้างจากผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์และพระเกจิอาจารย์ชั้นครูอีกหลายท่าน สร้างเพื่อบูชาครู เสกในงานไหว้ครู ของสำนักวัดโตนดหลวงโดยอัญเชิญหลวงพ่อทองสุขลงเสก  ต่อไปจะหายากและมีราคาในอนาคตเนื่องจากผู้คนจะเสาะหาแย่งกันบูชา ส่วนพุทธคุณเป็นอย่างไรนั้นผู้เขียนได้นำพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ที่ได้รับมรดกตกทอดจากคุณพ่อกับพระสมเด็จหอมหลวงปู่เลิศให้หลวงพ่อหลวงปู่ครูบาอาจารย์หลายๆ รูปท่านพิจารณาดู  ทุกท่านบอกตรงกัน ทำนองว่า เหมือนกัน สำเนากันมาเลย... สรุปตรงนี้ได้เลยว่า สมเด็จหอมชุดนี้สืบสายผงหลวงพ่อแก้ว ปรมาจารย์ผู้สร้างพระปิดตาที่ทรงคุณเมตามหานิยมอย่างเอกอุ อันดับหนึ่งของประเทศชนิดไม่ผิดเพี้ยน

ปัจจุบันพระสมเด็จหอมที่หลวงปู่เลิศและคณะศิษย์ฯจัดสร้างได้มอบให้วัดโตนดหลวงเรียบร้อยแล้ว  ท่านสามารถเดินทางมาบูชาด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ธนาณัติได้ที่  พระอาจารย์ประพนธ์  จิตฺตปุญฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส  วัดโตนดหลวง ต.บางเก่า อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ๗๖๑๒๐ สั่งจ่ายปณ.ชะอำ เพิ่มค่าจัดส่ง ๕๐ บาท หรือ ที่สำนักงานนิตยสารพระเกจิ โทร๐๒ ๔๓๔๒๖๓๔,๐๒ ๔๓๔๖๑๘๙.และศูนย์พระเครื่องชั้นนำทั่วไป

หลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์กับผงวิเศษหกตุ่ม ตอนที่ ๒

การลบผงเหล่านี้ของสำนักวัดโตนดหลวง ผู้ที่ได้รับการสืบทอดจะเป็นเพียงศิษย์รุ่นใหญ่และลูกหลานที่อยู่กับหลวงพ่อทองสุขมาก่อนเท่านั้น ศิษย์นอกวัดและศิษย์รุ่นหลังไม่มีใครได้และที่ไปเรียกว่าผงพระจันทร์ครึ่งซีกโดยไม่รู้จริงกันนั้น  พระเดชพระคุณหลวงพ่อย้อน เจ้าอาวาสวัดโตนดหลวงรูปปัจจุบัน ศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงพ่อทองสุข ได้กรุณาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า  ในสมัยที่หลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทัยวัน ศิษย์เอกหลวงพ่อทองสุข ได้คุมพระออกเดินธุดงค์ไปทางใต้แทนหลวงพ่อฯ วันหนึ่งได้เดินไปพบกับพระสายเขาอ้อแล้วได้พูดคุยแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กัน โดยมีการพูดถึงการลบผงนี้ในตอนที่ลบตัวมะออกครึ่งตัวเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งซีกดังที่กล่าวมาแล้วตอนต้น  พระหนุ่มในสำนักที่ไปด้วยได้ยินเข้าก็เอามาเล่าโม้ต่อๆกันไปโดยไม่ได้มีความรู้จริงอะไรเลย โม้กันปากต่อปาก  ทำให้เกิดความผิดเพี้ยนเรียกกันแบบไม่ถูกและไม่รู้จริงกันมาถึงวันนี้ ดังนั้นผู้ใดที่เรียกว่าผงพระจันทร์ครึ่งซีกผู้นั้นคือผู้ไม่รู้จริงอย่างแน่นอน

นอกจากหลวงพ่อบุญรวบท่านได้ทำการลบขยายผงเพิ่มตลอดเวลาแล้วท่านยังเสาะหามวลสารต่างๆที่มีอิทธิคุณมาใส่ลงไปอีก อย่างเช่น หินงอกที่หน้ากุฏิท่าน ตัดไปอย่างไรก็งอกขึ้นมาอีก อัศจรรย์มาก  (ท่านว่าเป็นเคล็ดแห่งความงอกงามเจริญเพิ่มพูนไม่มีหยุด) กิ่งกาหลง เม็ดกาหลง และว่านใจอ่อน ซึ่งท่านได้มาจากชีปะขาวที่ลพบุรี ว่านนี้มีอิทธิคุณเป็นเมตตาสมชื่อ หลวงพ่อบุญรวบท่านใช้อยู่ตลอดชีวิต เวลาท่านไปไหนท่านจะพกว่านใจอ่อนและอมกิ่งกาหลงไป โยมก็ไม่ยอมคิดเงิน  เวลาท่านไปขอกฐินผ้าป่าโยมก็แย่งกันเป็นเจ้าภาพ

นอกจากนี้แล้ว ท่านยังให้พันจ่าเอกสงกรานต์ มนต์สุกะซึ่งขณะนั้นมีอายุอยู่ราว ๑๕ –๑๖ ปี ขูดผงพลวงพ่อแก้วพิมพ์หลังแบบ๔องค์ที่ท่านได้มาจากในวัดใส่ลงในตุ่มซึ่งตอนนั้นมีผงเพียง ๔ตุ่มและนำผงทั้งหมดเข้ามหาพุทธาภิเษกในโบสถ์วัดในปากทะเลในวันเสาร์๕อีกครั้งจากนั้นก็ยังทำการขยายผงต่อมาเรื่อยๆ จนได้ถึงหกตุ่ม และคราใดที่หลวงพ่อบุญรวบว่างจากศาสนกิจ ท่านจะลงไปนั่งเสกนอนเสกผงเหล่านี้นานนับ๔๐ปี กระทั่งท่านเริ่มป่วย สังขารไม่อำนวยจึงหยุดไป  และก่อนท่านมรณภาพ(อายุ ๙๒ ปี พศ. ๒๕๔๙)ท่านได้สั่งพระอธิการสมพิศเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันไว้ว่า หากจะนำผงนี้ไปสร้างพระ เมื่อสถาปนาเป็นองค์พระแล้ว ไม่จำเป็นต้องปลุกเสกอีกให้นำออกแจกจ่ายได้เลย เพราะผงนี้เป็นผงที่สำเร็จไว้ดีเยี่ยมหมดแล้ว และห้ามมอบให้ศิษย์นอกสายอันพึงควร  ประกาศิตของหลวงพ่อบุญรวบนี้ไม่มีผู้ใดกล้าขัด เพราะท่านเป็นพระที่ดุและขลังมาก ส่วนจะขลังขนาดไหน? ดูภาพสังขารที่กลายเป็นหินของท่านดูก็แล้วกัน

เรื่องการขยายผงนี้ ผู้เขียนได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์รวมถึงผู้ช่วยโขลกตำผสมผง ซึ่งปํจจุบันยังมีชีวิตอยู่หลายท่าน อาทิพระสมพงษ์  สัจฺจธมฺโม  คุณเจเจ้าของร้านเจโฟโต้  พันจ่าเอกสงกรานต์ มนต์สุกะฯลฯ ต่างก็ยืนยันว่าหลวงพ่อบุญรวบท่านลบผงเอง ผสมผงและปลุกเสกมายาวนานตลอดชีวิต

นอกจากนี้ยังมีโอกาสเข้าไปถ่ายรูปผงหกตุ่มในห้องเก็บผงที่ปิดตายไว้ด้วย เมื่อแรกที่เปิดประตูเข้าไป พบว่าสายสิญจน์ยังพันอยู่ที่ปากตุ่มทั้งหก แต่ด้วยความตื่นเต้นอยากจะเห็นผงจึงรีบเข้าไปช่วยกันยกของที่กองมั่วๆปิดปากตุ่มไว้ออก  ทีนี้บนกองของมีสายสิญจน์ที่พันมั่วนัวเนียไปจากปากตุ่ม เลยต้องแก้สายสิญจน์ทั้งหมดออกก่อน จนลืมถ่ายรูปสภาพเดิมๆไว้ แต่ไม่เป็นไรเพราะผู้เขียนคิดว่าเพียงแค่รูปเท่านี้ก็สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้แล้ว

ต่อมาเมื่อท่านพระอธิการสมพิศทราบว่าหลวงปู่เลิศและคณะศิษย์จะจัดสร้างวัตถุมงคลหาปัจจัยสร้างรูปหล่อเหมือนขนาดเท่าองค์จริงของหลวงพ่อทองสุขและหลวงพ่อเทียนอดีตเจ้าอาวาสวัดโตนดหลวงขึ้น ท่านจึงเห็นว่าควรนำผงหลวงพ่อแก้ว หลวงพ่อปลอด หลวงพ่อทองสุข ที่หลวงพ่อบุญรวบลบขยายเพิ่มเติมนี้มอบถวายไปจัดสร้างพระสมเด็จหอม  เนื่องจากหลวงปู่เลิศท่านเป็นหลานชายผู้สืบพุทธาคมของหลวงพ่อทองสุขและกำลังจะหล่อรูปหลวงพ่อฯผู้เป็นพ่อบุญธรรมของหลวงพ่อบุญรวบเจ้าของผง 
ภายหลังพระอธิการสมพิศได้เล่าว่า ผงนี้หลวงพ่อบุญรวบท่านไม่เคยยอมให้ใคร  สมัยก่อนตอนท่านมีชีวิตอยู่ มีนักสร้างพระจะมาขอสร้างพระให้ท่านจากผงนี้ หลวงพ่อบุญรวบก็ไม่อนุญาตและต่อว่าไปแรงๆ  พอมาถึงยุคของท่าน (พระอธิการสมพิศ) ไม่ว่าจะพระผู้ใหญ่ หรือ วัดใกล้เคียงที่เวียนกันมาขอ ท่านก็ยังไม่เคยมอบให้ใคร เพราะท่านต้องทำตามคำสั่งของเจ้าของผงคือหลวงพ่อบุญรวบ แต่ครั้งนี้ที่ถวายให้หลวงปู่เลิศนั้นคงเป็นเพราะหลวงพ่อบุญรวบดลใจให้ เนื่องจากท่านคงอยากจะร่วมสร้างรูปเหมือนหลวงพ่อทองสุข ที่หลวงปู่เลิศเป็นผู้ดำเนินการ

หลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์กับผงวิเศษหกตุ่ม ตอนที่ ๑

บทความนี้ผมเขียนขึ้นจากการตามรอยประวัติหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์  อ.เมือง จ.ชลบุรี จนพบหนังสืออนุสรณ์ทำบุญอายุครบ ๑๐๐ ปีของหลวงพ่อแก้ว ที่จัดทำโดยพระชลธารมุนี(วิเชียร)อดีตเจ้าอาวาส วัดเครือวัลย์พิมพ์แจกเมื่อ ๓๑ ธ.ค. พ.ศ.๒๕๑๙ ระบุว่าหลวงพ่อแก้ว ท่านเกิดในครอบครัวชาวประมงทางจังหวัดเพชรบุรี  
เมื่อสืบค้นดูจึงทราบว่าท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดในปากทะเล อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี มาก่อน  โดยท่านได้ลบผงและสร้างพระปิดตาขึ้นครั้งแรกที่นั่น เรียกว่าพระปิดตาพิมพ์ปั้น เมื่อสร้างและเสกเสร็จก็แจกให้ญาติโยมจนพอใจแล้ว ท่านก็นำขึ้นบรรจุไว้บนเพดานหอระฆัง จนกระทั่งมีการรื้อหอระฆังสร้างใหม่ พระพิมพ์นี้จึงแตกกรุออกมาอีกครั้ง ต่อมาหลวงพ่อแก้วได้ออกเดินธุดงค์และไปจำพรรษาสร้างวัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี จึงได้มีการสร้างพระปิดตาแบบครึ่งซีกออกมาใหม่จนโด่งดัง หลังจากนั้นท่านจึงส่งหลวงพ่อปลอดลูกศิษย์ของท่านซึ่งเป็นชาวจันทบุรีมาปกครองวัดในปากทะเลแทน แต่ตัวท่านก็ยังคงกลับมาวัดในปากทะเลเป็นระยะๆ ทำให้ชาวบ้านในปากทะเลบางคนเคยได้รับพระปิดตาพิมพ์หลังแบบอยู่เหมือนกัน
เรื่องหลวงพ่อแก้วอยู่ครองวัดในปากทะเลและลบผงสร้างพระปิดตานั้น พระอธิการสมพิศเจ้าอาวาสวัดในปากทะเลรูปปัจจุบันเล่าว่า นอกจากจะได้รับการยืนยันจากคนเฒ่าคนแก่ของบ้านในปากทะเลหลายท่านด้วยกัน  ยังได้รับมอบรูปถ่ายหลวงพ่อแก้วที่มีสภาพสมบูรณ์อยู่มากจากหลวงพ่อบุญรวบ(ไพ่)ลูกบุญธรรมหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง ( อดีตเจ้าอาวาสวัดในปากทะเลรูปก่อน  ซึ่งมาปกครองวัดก่อนปีพ.ศ.๒๔๙๒)เป็นหลักฐานยืนยันอีกด้วย  อีกทั้งลุงหนาน สุววรณศิริ ศิษย์ใกล้ชิดพระอธิการสมพิศยังเล่าเสริมด้วยว่าบ้านของเขาอยู่ข้างรั้ววัดฯและพ่อของเขาชื่อ นายเภา สุวรรณศิริ เป็นผู้อุปัฏฐากหลวงพ่อปลอด เล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อแก้วท่านอยู่ที่วัดในปากทะเลตลอดจนกระทั่งไปอยู่ที่วัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี โดยไม่เคยไปอยู่จำพรรษาที่วัดอื่น  ท่านลบผงไว้มาก สร้างพระปิดตาแล้วยังเหลือเก็บไว้อยู่ไม่น้อย
เมื่อหลวงพ่อปลอดมาเป็นเจ้าอาวาส  ก็ได้นำผงที่เหลือจากการสร้างพระปิดตาพิมพ์ปั้นของหลวงพ่อแก้วมาลบขยายผงเพิ่มเติมผสมกับว่านยาตามตำรับของหลวงพ่อแก้วผู้เป็นอาจารย์ปั้นเป็นลูกอมปลุกเสกแจกจนโด่งดังในเวลาต่อมาเพราะมีประสบการณ์มากนั่นเอง        หลังจากปั้นลูกอมแล้วก็ยังมีผงเหลืออยู่ก้อนหนึ่งขนาดเท่าลูกฟุตบอล จวบจนกระมั่งหลวงพ่อปลอดมรณภาพลง นายเภา สุวรรณศิริ พ่อของลุงหนานซึ่งเก็บรักษาผงก้อนที่เหลือนี้ได้ส่งมอบผงต่อให้หลวงพ่อบุญรวบ(ไพ่) ขณะมารับตำแหน่งเจ้าอาวาสก่อนปีพศ.๒๔๙๒
เมื่อหลวงพ่อบุญรวบมาเป็นเจ้าอาวาสแล้วก็ได้นำผงหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวงมาผสมเพิ่มเติมลงไปจากผงหลวงพ่อแก้ว หลวงพ่อปลอดที่ได้รับมอบมา ( ท่านเป็นลูกบุญธรรมที่ได้รับผงและการถ่ายทอดพุทธาคมจากหลวงพ่อทองสุข ) จากนั้นก็ได้ลบผงเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา กระทั่งไม่นานวัดในปากทะเลได้มีการสร้างเหรียญและรูปหล่อของหลวงพ่อปลอดขึ้นโดยหลวงพ่อบุญรวบอาราธนาหลวงพ่อทองสุขผู้เป็นพระอาจารย์มาทำการปลุกเสกที่วัดในปากทะเล  การปลุกเสกในครั้งนั้นผงทั้งหมดนี้ก็ได้รับการปลุกเสกจากหลวงพ่อทองสุขด้วย เมื่อเสร็จพิธีแล้ว หลวงพ่อบุญรวบก็มิได้หยุดขยายผงแต่ประการใด ท่านยังคงทำการลบขยายผงมาตลอดชีวิต  โดยใช้วิชาการลบผงปถมัง ที่สืบทอดจากหลวงพ่อทองสุขมาเป็นหลัก ผงนี้มีผู้ไม่รู้จริงไปเรียกเป็นผงพระจันทร์ครึ่งซีกเพราะเหตุว่าในการลบผงนี้มีการลบมะอะอุเป็นไวยองการ โดยลบมะ(อักขระขอม)เสียครึ่งตัวด้วยคาถา ตะติยัง มะ อัฑฒะ โลโปจะ อัฑฒะจันทาวิชายะเต เหลือเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งซีก ผู้ไม่รู้จริงจึงทึกทักเรียกไปว่าผงพระจันทร์ครึ่งซีก ซึ่งแท้จริงแล้วคือการลบผงปถมังนั่นเอง

พระอาจารย์ชาญประธานคณะศิษย์หลวงปู่เลิศฝ่ายสงฆ์

วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

งานเททองรูปหล่อหลวงพ่อเทียนอดีจเจ้าอาวาสวัดโตนดหลวง

ผมขอแจ้งข่าวถึงผู้ที่เคารพศรัทธาหลวงปู่เลิศ วัดโพธาวาส ให้ทราบกันแต่เนิ่นๆ นะครับ
ทางประธานคณะศิษย์หลวงปู่เลิศ และกรรมการวัดโตนดหลวงเห็นพ้องต้องกันว่า คณะศิษย์วัดโตนดหลวงควรจะรำลึกและช่วยกันเชิดชูคุณความดีคุณครูบาอาจารย์อดีตเจ้าอาวาสวัดโตนดหลวงให้เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป เพื่อให้รุ่นหลังได้ปฏิบัติเป็นแบบอย่างในคุณงามความดี จึงเห็นสมควรว่าในช่วงปลายปีนี้ ทางวัดฯจะจัดงานเททองหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อเทียนและฉลองรูปหล่อหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวงซึ่งได้ทำการหล่อไปแล้วเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา

จึงขอเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมงานหล่อพระและฉลองรูปหล่อหลวงพ่อทองสุขเท่าองค์จริงกัน

ความคืบหน้าในงานดังกล่าวผมจะนำมาบอกกล่าวในบล็อกนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงวันงานนะครับ