ชนิดของพระปิดตาแบ่งออกเป็น ๓ ชนิด
๑. พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งยอง ความหมายเดิมคือพระโพธิสัตว์เจ้าในพระครรภ์ เรียกว่าพระมหาอุด หรือเป็นพระปิดทวารทั้งเก้าเต็มภาค ไม่มีคำเรียกอย่างอื่น ชนิดปิดตานั่งยอง มือสอดเช่า ทางใต้เรียกพระปิดตาในครรภ์
๒. พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งขัดสมาธิยกหัตถ์ปิดทวารทั้งเก้า ความหมายเดิมคือพระเจ้าเข้านิโรธ เราเรียกพระปิดตาตามลักษณะนี้อีกชื่อหนึ่งว่า “พระปิดตามหาอุด” มาจากหัวใจ ๔ คำด้วยกัน คือ “อุดทัง อัดโท โทอุด ทังอัด” เรียกว่า “หัวใจมหาอุด” และด้วยพุทธคุณทางด้านกันอาวุธสูงมาก ประกอบกับพุทธคุณด้านอื่นก็มีแฝงอยู่ด้วย แล้วมีการเปลี่ยนแปลงในภาษากลายเป็น“พระปิดตามหาอุตม์” แปลตรงตัวว่าพระปิดตาที่อุดมไปด้วยความดีมีคุณวิเศษครบถ้วนทุกอย่างทุกทาง
ควรใช้ศัพท์เรียกว่า “ภควัม”ไม่มีคำว่าพระนำหน้าและไม่มีคำบดีหรือปติตามหลัง จะเรียกภควันต์ก็ไม่ได้ เพราะคำศัพท์หมายถึงพระอิศวรหรือนามแห่งพระพุทธเจ้า ภควัม ตามความหมายของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานหมายความถึงพระปิดทวารทั้งเก้าปิดตาคว่ำพระพักตร์ จนมีคำพังเพยว่า”หน้าคว่ำเป็นภควัมเจียวนะ”หมายถึงสาวแสนงอน มองไปหลายตลบ ก็ไม่พบพระปิดตาหน้าคว่ำคำราชบัณฑิตหมายถึง ผู้แปลบาลีท่านจะเป็นนักพระเครื่องด้วยหรือเปล่าก็ไม่ทราบ
๓. พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งขัดสมาธิยกหัตถ์ทั้งสองขึ้นปิดพระพักตร์ เว้นส่วนอื่น เป็นพระเมตตามหานิยมและลาภผล เรียกว่า “พระควัมปติ”พระปิดตาทั้ง๓ชนิดมีทั้งฝ่ายบู้ ฝ่ายบุ๋น ความหมายมิได้คล้ายคลึงกันเลย ยังมีบางท่านเข้าใจผิดคิดว่าเป็นประเภทเดียวกัน จึงขอคุยกันห้เห็นชัดสักครั้ง เพราะมิผู้นิยม"พระปิดตา"กันมาก
พระปิดตาในประเทศไทยที่พบเห็นมีอยู่ด้วยกันหลายแบบ หลายทรง และหลายเนื้อหา สะท้อนบ่งบอกถึงความเป็น “เอกลักษณ์” ของผู้สร้าง โดยนิยมสร้างด้วย
๑. เนื้อผง
๒. เนื้อโลหะ
๓. เนื้อไม้แกะ
เนื้อผงสร้างจากผงพุทธคุณ ว่าน รวมไปถึงดิน
เนื้อโลหะ ได้แก่ สำริด เงิน เหล็ก หรือโลหะผสมของธาตุกลุ่มโลหะ
อย่างหลังสุดจะพบเห็นกันไม่บ่อยนัก ตามตำรานิยมสร้างจากไม้โพธิ์นิพพานบูรพาทิศ (กิ่งชี้ทางทิศตะวันออกหักลงเองตามธรรมชาติ) หรือไม้รักซ้อน แกะเป็นองค์พระภควัมบดี คว้านก้นให้กลวง นำกระกาษสาลงยันต์องค์พระภควัมบดี และให้เอายอดรักซ้อน ยอดสวาท ยอดกาหลง อย่างละ ๓ ยอด บดให้ละเอียดผสมกันเป็นตัวยา แล้วหาไคลเสมา ไคลพระอุโบสถ และไคลเจดีย์ เคล้าคุลีการเข้ากับผงอิธเจ บรรจุทับ แล้วอุดด้วยชันนะโรงใต้ดิน................ ลงแช่ในน้ำมันเก้ากลิ่น แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วครับ
ส่วนการทำรูปเคารพเป็นรูปปิดทวารทั้ง 9 นั้น ก็คือมือคู่หนึ่งปิดหน้า คือปิดตา 2 ข้างปิดจมูก 2 ปิดปาก 1 และมีมืออีกคู่หนึ่งมาปิดที่หู 2 ข้าง ส่วนอีกมือคู่หนึ่งนั้นปิดที่ทวารทั้ง 2 รวมเป็นปิดทวารทั้งเก้านั้นแฝงไว้คติธรรมอันหมายถึง ตอนที่พระภควัมปติท่านกำลังเข้านิโรธสมบัติ ทวารทั้งเก้าก็จะปิดสนิท ไม่ยินดียินร้ายกับกิเลสทั้งหลาย หมายถึงดับสนิท อาสวะกิเลสต่างๆ ไม่อาจที่จะเข้ามาแผ้วพานได้เลย
พระปิดทวารทั้งเก้านั้นมีคติการสร้างมาตั้งแต่ครั้งไหน ยังไม่มีการสืบค้นไปถึงได้ มีพระปิดทวารทั้งเก้าเก่าๆ ที่ยังไม่มีใครทราบว่าเป็นของพระอาจารย์ท่านใดสร้าง แต่มีเนื้อหาความเก่าและได้รับตกทอดกันมานานแล้ว ก็มักจะเรียกกันว่าพระปิดทวารฯ เขมร ส่วนมากที่พบมักจะเป็นเนื้อโลหะ ประเภทสำริด หรือโลหะผสม ออกจะเป็นทองเหลืองบ้าง เนื้อกลับดำบ้าง